7 แนวทางการใช้ Hand Lift อย่างปลอดภัย

แนวทางการใช้ hand lift อย่างปลอดภัย

เมื่อพูดถึงความปลอดภัยในการขนย้ายวัสดุ หรือสินค้าต่าง ๆ ภายในคลังสินค้า เครื่องมือที่ใช้เคลื่อนย้ายสินค้าอย่าง Hand Lift อาจมีความเสี่ยงต่อความปลอดภัย ที่จะเกิดขึ้นกับผู้ใช้งาน 

วันนี้ TS จึงจะมาแนะนำวิธีการใช้ Hand Lift อย่างปลอดภัยปลอดภัยมากที่สุดแก่ทุกคนกันค่ะ 

7 แนวทางการใช้แฮนด์ลิฟท์อย่างปลอดภัย

การใช้ Hand Lift อย่างปลอดภัยสำคัญอย่างไร?

อย่างที่เราทราบกันดีว่า ความปลอดภัยของคนสำคัญมาก ถ้าใช้เครื่องมือ Hand Lift อย่างประมาท อาจเกิดความเสียหายขึ้นอย่างไม่คาดคิด

คนงานลากแฮนด์ลิฟท์ที่บรรทุกของหนักในคลังสินค้า

ด้วยความที่แฮนด์ลิฟท์เป็นเครื่องมือที่มีน้ำหนักมาก และยังต้องขนของที่มีน้ำหนักหลาย ๆ ตันไปด้วยอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถลากที่เป็น Hand Pallet แบบ Manual ที่ต้องใช้แรงงานคนในการควบคุม มันอาจจะต้องใช้ทักษะและความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ

เพราะหากใช้งานอย่างไม่ระมัดระวัง เช่น การลากแฮนด์พาเลทลงในทางลาดชันที่ผิดวิธี จึงทำให้กล่องลังต่าง ๆ หล่นลงจากพาเลท ซึ่งมันอาจทำให้มีการบาดเจ็บเกิดขึ้นได้ 

1. ตรวจเช็คทุกอย่างก่อนปฏิบัติงาน

ก่อนจะใช้งาน Hand Lift ไม่ว่าจะเป็นรุ่นธรรมดา, รุ่นไฟฟ้า, หรือแม้กระทั่งแฮนด์ลิฟท์ประเภทไหนก็ตาม สิ่งที่คุณจะต้องทำ คือการตรวจสอบทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนการปฏิบัติงานจริง ฉะนั้นสิ่งที่ควรตรวจเช็คคือ

  • ตรวจเช็ครอยแตกร้าวของ Hand Lift

การเช็คแฮนด์ลิฟท์ประเภทต่าง ๆ ของคุณว่ามีรอยแตกร้าว หรือความเสียหายตรงไหนหรือไม่ จะทำให้คุณลดอันตรายที่จะเกิดขึ้นได้มากทีเดียวเลยค่ะ  เพราะถ้าหากรถยกหรือรถลากมีความเสียหาย แต่คุณไม่ได้สังเกต การบรรทุกสิ่งของที่หนักมากๆ อาจส่งผลให้รถพังลงมาพร้อมกับสินค้านั้นๆ ซึ่งผลที่ตามมาคือ สินค้าอาจหล่นลงมาทับคน เป็นเหตุทำให้เกิดความเสียหายทั้งทรัพยากรที่เป็นสินค้าและทรัพยากรมนุษย์ที่มีความสำคัญมากที่สุดก็ได้ค่ะ 

  • ตรวจเช็คปั๊มไฮโดรลิก

ทำได้โดยการใช้แฮนด์กดคันโยกลง เพื่อยกงาขึ้นจนสุด จากนั้นสังเกตว่า ตอนที่โยกปั๊มมันสามารถใช้งานได้ราบรื่นดีไหม รวมทั้งคุณจะต้องตรวจสอบว่า มีน้ำมันไฮโดรลิกรั่วหรือไม่ไปพร้อม ๆ กันด้วย 

  • ตรวจเช็คพาเลทสินค้า 

ก่อนที่จะนำแฮนด์พาเลทสอดเข้าไปใต้พาเลทยกสินค้า สิ่งที่ต้องทำก่อนเลยคือ ให้เช็คว่าพาเลทสินค้านั้นมีความมั่นคง, แน่นหนา, และไม่มีความเสียหายแตกร้าว

  • ตรวจเช็คสิ่งกีดขวางรอบตัว

เช็คให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งกีดขวางด้านบน ในระหว่างที่คุณกำลังยกพาเลทขึ้น ระวังสิ่งกีดขวางเหนือศีรษะ หรือสิ่งกีดขวางอื่น ๆ เช่น ชั้นวางสินค้า, เพดานที่ต่ำเกินไป และอื่น ๆ ที่อาจชนกับของที่เรากำลังบรรทุกบนพาเลท

เพราะบางครั้ง สิ่งของที่บรรทุกอาจมีความสูงมาก ซึ่งอาจส่งผลให้มันชนเข้ากับสิ่งกีดขวางนั้นจนเกิดอันตรายได้ ดังนั้นเช็คให้เรียบร้อยก่อนยกสินค้าและเคลื่อนที่รถลากนะคะ

2. ระวังเรื่องน้ำหนักสินค้า

ดูว่าแฮนด์ลิฟท์หรือแฮนด์พาเลทของคุณสามารถรองรับน้ำหนักได้มากที่สุดเท่าไหร่ และอย่าบรรทุกสินค้าที่มีน้ำหนักเกินกว่านั้น เพราะอาจทำให้รถพังได้ง่าย อีกทั้งยังเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุขณะลากรถได้

นำสิ่งของที่มีน้ำหนักมากที่สุดวางไว้ด้านล่างสุดด้วยนะ หลายคนน่าจะทราบดีแล้ว แต่เตือนบางคนที่มีความเร่งรีบหรือขี้เกียจเรียงสินค้า จึงวางอันไหนก็ได้ทับ ๆ กันไป แต่ถ้าคุณทำแบบนั้น สิ่งของที่วางทับ ๆ กันโดยไม่จัดลำดับน้ำหนักให้ดี มันมีโอกาสร่วงหล่นลงมาโดนหัวคน และเกิดความเสียหายได้

3. ไม่ควรวิ่งขณะกำลังเคลื่อนที่

ควรควบคุมความเร็วของการเคลื่อนที่ด้วยการเดิน ไม่ควรวิ่ง เวลาเลี้ยวควรเลี้ยวไปในทิศทางที่ชัดเจน

อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ คือให้ต้องจับแฮนด์ให้แน่นและยืนตรงกลางของรถลากพาเลทเสมอในระหว่างที่กำลังเคลื่อนที่ เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุให้ได้มากที่สุด 

4. ควบคุมความเร็วในทางลาดชัน

แม้ว่าเราจะไม่ควรลากแฮนด์ลิฟท์และแฮนด์พาเลทไปในทางลาดชัน แต่ในบางครั้ง เราอาจไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่จะเดินผ่านมันได้ ซึ่งเหตุการณ์นี้จะมี 2 กรณีด้วยกันคือ

  • การลง

ให้รถลากอยู่ด้านหน้า โดยสิ่งที่ควรทำเมื่อเดินลงทางลาดชันขณะกำลังควบคุมแฮนด์ลิฟท์อยู่ (โดยเฉพาะ Hand Pallet แบบธรรมดา) ให้ค่อย ๆ ลากรถลงและพยายามรักษาการทรงตัวไว้ให้ดี

การควบคุมความเร็ว ทำได้ด้วยการจับแฮนด์ให้แน่นด้วยมือทั้งสองข้าง แล้วดันไว้เล็กน้อยเพื่อชะลอความเร็วหากรถลากเคลื่อนที่เร็วเกินไป

  • การขึ้น

ให้รถลากอยู่ด้านหลัง จากนั้นจับแฮนด์แล้วดึงขึ้นมาแล้วออกแรงลากมาตามทาง ระหว่างนี้ ให้สังเกตว่ามีสิ่งของตกหล่นด้วยหรือไม่

5. ควรใช้การดึงหรือลากมากกว่าการเข็น

เมื่อคุณใช้การดึงหรือลากเข้าหาตัว จะทำให้คุณสามารถควบคุมตัวรถแฮนด์พาเลทได้ดีกว่า เพราะการเข็นหรือการดันออกไปเพื่อให้รถเคลื่อนที่ มีโอกาสที่จะทำให้ล้อเปลี่ยนทิศทาง และเสียการทรงตัวได้ง่าย ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการพลิกคว่ำได้

# แต่หากใช้งานจนชำนาญแล้ว การเข็นอาจทำได้ในบางสถานการณ์ในระยะทางสั้น ๆ เช่น การเปลี่ยนทิศทาง เพื่อความสะดวกในการใช้งาน

ใช้แฮนด์ลิฟท์ด้วยการดึงหรือลาก

การใช้แฮนด์ลิฟท์ด้วยการดึงหรือลาก

6.ห้ามขึ้นไปบนรถลากเด็ดขาด

ถ้ารถลากพาเลทชนิดไหน ถูกออกแบบมาให้ใช้แค่ขนของอย่างเดียว คุณก็ควรใช้งานมันแค่นั้น ห้ามขึ้นไปบนรถลากพาเลทไม่ว่าจะในกรณีจำเป็นหรือนำไปขี่เล่นก็ตาม เพราะอาจส่งผลให้รถเสื่อมสภาพการใช้งาน และยังเป็นอันตรายต่อคนที่ขึ้นไปขี่อีกด้วย

7. อยู่ตำแหน่งที่เหมาะสม

ก่อนอื่นคุณอาจจะต้องกำหนดทิศทางการเคลื่อนที่กับพนักงานทุกคนที่ใช้งานตั้งแต่แรกว่า ควรเดินทางซ้ายหรือขวา เพื่อให้เข้าใจตรงกันในโรงงาน ซึ่งก็จะเป็นระเบียบและเกิดอันตรายได้น้อยที่สุด

  • ขณะกำลังเคลื่อนที่

ตรวจสอบบริเวณโดยรอบให้ดีว่ามีรถบรรทุกหรือรถโฟล์คลิฟท์คันอื่นที่กำลังเคลื่อนที่ผ่านไปมาแถวนั้นหรือเปล่า ไม่ควรเคลื่อนที่ไปอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้กันจนเกินไป หากมีเพื่อนร่วมงานสวนทางมาหรือถึงทางแยก ให้หยุดรถก่อนเสมอเพื่อป้องกันการชนกันเกิดขึ้น

  • ขณะจอด

เวลาที่คุณหยุดจอดหรือถึงจุดหมาย ไม่ควรจอดขวางประตูหรือทางเดินเข้าออก นําสิ่งของมาวางขัดล้อไว้เพื่อป้องกันล้อเลื่อนไปมา จากนั้นให้ยืนในตำแหน่งที่ปลอดภัย ไม่เอาตัวเองเข้าใกล้ตัวรถพาเลทสินค้ามากเกินไป ไม่นำเท้าเข้าไปใกล้ ๆ ใต้รถลาก เพื่อป้องกันพาเลทสินค้าหรือล้อรถทับเท้านั่นเองค่ะ

✔ สรุป

การทำงานกับสิ่งของชิ้นใหญ่ที่มีความหนัก แถมยังต้องควบคุมอุปกรณ์ที่ต้องใช้เทคนิคอย่าง Hand Lift คุณจะต้องใส่ใจกับรายละเอียดและต้องใช้งานอย่างระมัดระวังมากเป็นพิเศษ  

เพราะถ้าหากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมา อย่างที่เราบอกในตอนต้นว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้น อาจไม่ได้เกิดแค่กับสิ่งของอย่างเดียว แต่อาจเกิดกับ “คน” ซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในองค์กร 

ฉะนั้นตระหนักถึงความปลอดภัยให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้นะคะ 

หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแฮนด์ลิฟท์, แฮนด์พาเลทหรือรถยก สามารถติดต่อที่ Contact TS ได้เลยค่ะ

References :

Comments are closed.